วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2560

อุโมงค์ลอดทางแยกพัทยากลาง ได้ฤกษ์เปิดให้สัญจรแล้ว 25 ส.ค. นี้




อุโมงค์ลอดทางแยกพัทยากลาง อุโมงค์ทางลอดนี้มีความยาวมากที่สุดในประเทศถึงกว่า 420 เมตร ได้ฤกษ์เปิดให้สัญจรแล้ว 25 ส.ค. นี้



วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560

“ปราสาทสัจธรรม” ปราสาทไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในเมืองพัทยา

ปราสาทสัจธรรม (Sanctuary of Truth) เป็นปราสาทที่ทำด้วยไม้ทั้งหลังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นปราสาทไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ แหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีน ไปชมความงามของที่แห่งนี้กัน เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แค่นี้เอง ^^
ปราสาทสัจธรรม (Sanctuary of Truth) ปราสาทที่ทำด้วยไม้ทั้งหลังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแห่งนี้ มีเนื้อที่  80 ไร่ ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า “วังโบราณ” บ้างก็เรียกตามวัสดุของตัวอาคารว่า “ปราสาทไม้” สร้างโดย คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ นักธุรกิจผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรมไทยและศาสนาพุทธ อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ และพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณด้วย
ภายในปราสาทได้แฝงเนื้อหาทางปรัชญา และศิลปวัฒนธรรมันเป็นมรดกของมนุษย์ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาในฐานะเป็นเครื่องค้ำจุนโลก โดยเน้นหลักสำคัญคือ “ก่อกำเนิดทั้ง 7 และคุณธรรมข้อประพฤติปฏิบัติทั้ง 4”
ปราสาทสัจธรรมเริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2524  ตัวปราสาทสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ไม่มีโลหะหรือปูนเข้ามาปะปน ยกเว้นส่วนฐานที่เป็นคอนกรีต  มีการใช้ระบบเข้าเดือยไม้แบบไทย  หรือใส่สลักไม้ตามภูมิปัญญาโบราณ  ตัวปราสาทเป็นทรงจัตุรมุข  สูง 100 เมตร กว้าง 100 เมตร  แกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรพิสดาร   ทั้งภายนอกและภายใน  กล่าวกันว่างามดั่งเทพนฤมิต  สะท้อนแนวคิดนามธรรมออกมาตีแผ่เป็นรูปธรรมให้สัมผัสได้ สื่อถึงความสำคัญของศาสนาและปรัชญาตะวันออก
ปราสาทสัจธรรม มีประติมากรรมไม้แกะสลักที่วิจิตรพิสดารอยู่แทบทุกจุดของปราสาท ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายส่วน ดังนี้
  • ห้องโถงด้านทิศตะวันออก พ่อและแม่ (ความกตัญญูรู้คุณ)
  • ห้องโถงด้านทิศตะวันตก ฟ้า ดิน (ธาตุ4) มี เทพผู้เป็นใหญ่ซึ่งครองธาตุทั้ง 4 คือ พระพรหม พระอิศวร และพระนารายณ์
  • ห้องโถงด้านทิศเหนือ การพัฒนาสังคมและจิตวิญญาณสื่อถึงประติมากรรมและจำหลักความเชื่อของลัทธิเต๋า-ขงจื๊อ ที่แสดงถึงความมีคุณธรรมสูงส่งของพระโพธิสัตว์ในลัทธิพุทธมหายาน
  • ห้องโถงด้านทิศใต้ ดวงดาว-พระอาทิตย์-พระจันทร์ ภาพจำหลักแสดงถึงพระอาทิตย์ พระจันทร์ และประติมากรรมลอยตัวรูปเทพเจ้าประจำดาวพระเคราะห์ที่โคจรอยู่บนฟากฟ้า ดวงดาวเหล่านี้มีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิต ส่งผลต่อสรรพสิ่ง ทำให้เกิดการวิวัฒนาการและพฤติกรรมต่างๆ บนโลก
  • ห้องโถงกลาง มหาบุษบก การหลุดพ้นซุ้มประตูไม้แกะสลักประตูใหญ่ทั้ง 4 ด้าน สัญลักษณ์ทางเข้าสู่จักรวาลหรือความหมายของอริยะสัจ4 ที่เป็นหัวใจในหลักคำสั่งสอนแห่งพุทธศาสนา และมหาบุษบกวิมานเป็นสัญลักษณ์สื่อความว่างเปล่าแห่งจักรวาลหรือนิพพาน เป็นดั่งศูนย์กลางในจักรวาล คือ สัจธรรมเที่ยงแท้ตั้งแต่ปฐมกาลจนถึงจุดจบของโลกแห่งตัวตน
“เทพประจำวันอังคาร” (ตามความเชื่อ)
มีความกล้าหาญ อดทน แข็งแกร่ง เข้มแข็ง
“พระโพธิสัตว์”
ผู้ที่บำเพ็ญบารมี เพื่อการตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือจะตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
“ช้างเอราวัณ หรือช้างสามเศียร”
ทางผู้ใช้บริการสามารถที่จะซื้อตั๋วในการนั่งช้างชมปราสาทได้ด้วย โดยภายในปราสาทจะมีกิจให้ทำอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น เล่น ATV ,นั่งสปีดโบท,ขี่ม้าชมปราสาท หรือ “นั่งเรือขุดโบราณ” ชมบรรยากาศสวยๆ รอบองค์ปราสาทฯ จองบัตรราคาพิเศษได้ที่ www.sanctuaryoftruth.com
นั่งเรือขุดโบราณ
ขับรถ ATV
ขี่ช้าง
ที่ตั้ง : เลขที่ 206/2  หมู่ 5 แหลมราชเวช  อ่าววงพระจันทร์ ตำบลนาเกลือ  อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
การเดินทาง : ห่างจากพัทยาใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าอยู่บริเวณซอยนาเกลือ 12 ตรงเข้าไปจนเกือบสุดซอย  มีซุ้มประตูขนาดใหญ่ของปราสาทสัจธรรมอยู่ทางขวามือ
เวลาทำการ : 08.00-17.00 น.  ทุกวัน
ค่าเข้าชม :  ผู้ใหญ่  500 บาท  เด็ก  250 บาท
ติดต่อ : โทร. 0-3836-7815, 0-3836-7229, 0-3822-5407
เว็บไซต์ : www.sanctuaryoftruth.com
แหล่งที่มา : https://travel.mthai.com

วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ประวัติความเป็นมาของเมืองพัทยา ที่บางทีคุณอาจจะยังไม่รู้

(สุขาวดีของสหฟาร์มก่อนถึงนาเกลือพัทยา)
หาดทรายที่ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเลทางภาคตะวันออกของอ่าวไทย ซึ่งจัดได้ว่ะมีความสวยงามอีกแห่งของประเทศไทยที่อยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงมากนัก คงจะหนีไม่พ้นชายหาด “พัทยา” ที่พัทยานี้ ยังเป็นศูนย์รวมของสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีตั้งเรียงรายให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการอย่างมากมาย เดิมที่ “พัทยา” เป็นเพียงชายหาดอันสงบเงียบ เริ่มรู้จักกันจากคำบอกเล่าต่อกันมาว่า เมื่อ พ.ศ. 2310 ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับพม่า 3 เดือน พระยาตาก (สิน) ขณะนั้นยังเป็นพระยากำแพงเพชร ลงความเห็นว่า หากกรุงศรีอยุธยายังต่อสู้กับพม่าอย่างอ่อนแอเช่นนี้ ต่อไปจะต้องสูญเสียกรุงให้พม่าอย่างแน่นอน พระยากำแพงเพชรจึงรวบรวมสมัครพรรคพวกออกไปตั้งหลักใหม่ ให้มีกำลังทัพเข้มแข็งขึ้นค่อยกลับมากู้กรุงคืน พระยากำแพงเพชรได้เริ่มเคลื่อนทัพออกจากค่ายวัดพิชัยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ สู้พรางร่นถอยหนีการตามล่า ของทหารพม่าไปพลาง จนกระทั่งเลยเข้าแขวงเมืองชลบุรี พระยากำแพงเพชรหยุดพักทัพที่บริเวณหน้าวัดใหญ่อินทรารามในปัจจุบัน แล้วเดินทัพมุ่งตรงไปยังจันทบุรี ระหว่างทางได้พักที่บ้านหนองไผ่ ตำบลนาเกลือ แขวงเมืองบางละมุง ปัจจุบันอยู่ด้านหลังสถานีตำรวจภูธรพัทยา ตามพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขาเล่ม 2 กล่าวเอาไว้ว่า ขณะที่ นายกลม เป็นนายชุมนุมคุมไพร่ พลอยู่ที่นั่น ตั้งทัพคอยสกัดคิดจะต่อรองพระยากำแพงเพชรในตอนนั้นขึ้นช้างพลายถือปืนนกสับรางแดงพร้อม ด้วยพลทหารที่ร่วมเดินทางมาแห่ล้อมหน้าหลัง ตรงเข้าไปในระหว่างพวกพลนายกลมมาสกัดอยู่ ด้วยเดชะบาร มีบันดาลให้นายกลมเกิดเกรงกลัวพระเดชานุภาพวางอาวุธสิ้น พาพรรคพวกพลเข้าร่วมกองทัพกับพระยากำแพง เพชร จากนั้นพระยากำแพงเพชรก็น้ำทัพไปหยุดประทับ ณ สถานที่ที่มีหนองน้ำครั้งรุ่งขึ้น หรือวันอังคารแรม 6 ค่ำ เดือนยี่ นายกลมจึงนำไพร่พลหมี่นหนึ่งนำทัพไปถึง ณตำบลหนึ่ง และหยุดพักเสียหนึ่งคืน วันต่อมาจึงเดินทัพมาถึง นาจอมเทียนและทุ่งไก่เตี้ย สัตหีบ โดยหยุดพักแรมแห่งละคืน ต่อมาชาวบ้านก็เรียกตำบลนี้ว่า “ทัพพระยา” และเปลี่ยนมาเรียกใหม่ “พัทธยา” เนื่องจากเห็นว่าตรงบริเวณที่พระยาตากมาตั้งทัพนั้นทำเลดี และมีลมทะเลชื่อ “ลมพัทธยา” ซึ่งก็คือลมที่พัดมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือในต้นฤดูฝน จึงเรียกสถานที่ แห่งนี้ว่า “หมู่บ้านพัทธยา” ต่อมาปัจจุบันคำว่า “พัทธยา” ได้เขียนใหม่เป็น “พัทยา” อีกเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้พัทยาเป็นที่รู้จักไปทั่ว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2502 เมื่อมีรถบรรทุกขนาดใหญ๋ของทหารอเมริกันประมาณ 4-5 คัน บรรทุกทหารเต็มคันรถ ประมาณคันละ 100 คน จากจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งที่นั่นมีฐานทัพของทหารอเมริกันอยู่ มุ่งมาสู่พัทยา และมาเช่าบ้านตากอากาศของพระยาสุนทร บริเวณตอนใต้ของหาด โดยผลัดกันมาพักผ่อนเป็นงวด งวดละสัปดาห์ จากพฤติกรรมของทหารอเมริกันเช่นนี้ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นการท่องเที่ยวเมืองพัทยาตอนนี้เอง จากสภาพหมู่บ้านชายทะเลที่เงียบสงบ ก็พลันเปลี่ยนกลับกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศ ในเวลาต่อมา หมู่บ้านพัทยาก็ถูกพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ในระดับนานาชาติ เป็นที่รู้จักไปทั่วทุกมุมโลก อย่างเช่นปัจจุบัน
บริเวณใกล้เคียงกับพัทยามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่ใช้เวลาหลายวันก็ไม่สามารถเที่ยวได้ทั่ว ไว้โอกาสหน้าค่อยมาเล่าให้ฟัง หลายคนคงเคยผ่านตามมาบ้างแล้ว
ที่บนเขานาจอมเทียน พัทยาปาร์ค บนตึกสูงห้องอาหารหมุนได้รอบทิศชมวิวเมืองพัทยา นาจอมเทียน พร้อมกับกิจกรรมท้าทายมฤตยูที่คนตาขาวอย่างผมได้แต่คอยเชียร์อยู่อย่างหวาด ๆ มีหลายกิจกรรมมากเสียวๆ ทั้งนั้นเลย
บนหาดนาจอมเทียนยามค่ำคืนกับโลกส่วนตัวของครอบครัว
หรือจะจุดเทียนเป่าเค็กริมหาดทรายในยามดีกกับคนรู้ใจ
การเดินทาง
โดยรถยนต์
จาก อ.เมืองชลบุรี ตรงมาตาม ถ.สุขุมวิท ผ่าน อ.ศรีราชาและ อ.บางละมุง หรือใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ก็สะดวก (เก็บค่าผ่านทาง)
ถนนพัทยามีสามเส้นหลักๆ คือ ถ.พัทยาเหนือ อยู่ตรงหลัก กม.144 ถ.พัทยากลาง อยู่ประมาณหลัก กม.145-146 และ ถ.พัทยาใต้ หลัก กม.147 ทั้งสามเส้นจะไปพบกับถนเลียบชายหาดพัทยา (ริมหาดเป็นทางวันเวย์ลงมาจากพัทยาเหนือ  ช่วงค่ำจะปิดถนนช่วงพัทยาใต้ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี เป็นถนนคน(ฝรั่ง)เดิน
โดยรถประจำทาง
มีรถโดยสารประจำทางออกจากสถานีขนส่งเอกมัยและและหมอชิตไปพัทยา
โดยรถไฟ
จากกรุงเทพฯ มีบริการเพียงวันละหนึ่งเที่ยว ออกจากสถานีกรุงเทพฯ เวลา 06.55 น. ถึงสถานีพัทยาเวลา 10.45 น. เวลาเดินทาง 3 ชม. 40 นาที สถานีรถไฟพัทยาอยู่นอกเมืองพัทยาเยื้องกับทางเข้า ถ.พัทยานอก (ถ้าไม่เน้นนั่งรถไฟ ขอบอกว่าไม่สะดวกถ้าจะย้อนไปพัทยา)
โดยเครื่องบิน
นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางมาพัทยาส่วนใหญ่ ต่างก็ไม่ทราบว่ามีสนามบินอู่ตะเภาที่สัตหีบ และเที่ยวบินที่มีปัจจุบันเปิดบริการโดย สายการบิน Bangkok Airways ถึง และ จาก เกาะสมุย  (เส้นทางนี้ยังไม่เคยลองจ๊ะ)

แหล่งที่มา : http://oknation.nationtv.tv

Pattaya City / Hotel Guide

พัทยา เมืองท่องเที่ยวชายทะเลระดับโลก #แนะนำที่พักดีๆ

Pattaya City  เที่ยวทะเลพัทยา กินลม ชมวิววสวย และแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ธรรมชาติแสนงาม หรือ เที่ยวชมศาสนสถาน ศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่น คาบาเร...